ที่นี่มหาวิทยาลัย
ที่นี่มหาวิทยาลัย เป็นเรื่องสั้นในหนังสือรวมเรื่องสั้นชุด
“ซอยเดียวกัน” รวมเรื่องสั้นรางวัลซีไรต์
ปี
พ.ศ. 2527
ของวาณิช จรุงกิจอนันต์ มีจำนวน 232 หน้า และตีพิมพ์ครั้งแรกในผู้หญิง
ที่นี่มหาวิทยาลัย
เป็นเรื่องเกี่ยวกับผู้ชายคนซึ่งเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
ที่มีความคิดเห็นต่อวงการข้าราชการในระบบมหาวิทยาลัยว่า ที่นี่คือมหาวิทยาลัย
เป็นแหล่งวิชาการ เป็นแหล่งผลิตบัณฑิต ปัญญาชนมันสมองของประเทศชาติ
แต่เขากับรู้สึกสงสารนักศึกษาทุกคนที่นี่ ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้
เขาเป็นห่วงนักศึกษาทุกคน เขารู้สึกจะอดทนกับการรับเงินเดือนของรัฐบาลจากมหาวิทยาลัยแห่งนี้ได้อีกไม่นาน
เพราะเขารู้สึกเหนื่อยหน่ายกับสภาพแวดล้อม สภาพความโง่เขลา เห็นแก่ตัว
สภาพของความเกียจคร้านสันหลังยาวของคนรอบข้าง
ความซื่อเซ่อของผู้บังคับบัญชาสารพัดสารพัน เขาเคยคิดว่าอาจารย์มหาวิทยาลัยจะต้องมีคุณธรรมอันสูง
เหมือนๆกับที่เขาเคยเชื่อว่าครูนั้นจะต้องมีคุณธรรมในใจ
แต่ในความเป็นจริงแล้วภาพของอาจารย์ที่เขากำลังเลือกตารางสอน
ช่างไม่ต่างกับสมัยที่เขาเรียนหนังสืออยู่ชั้นประถม ในวันเปิดเทอมที่เขาและเพื่อนๆต่างแย่งโต๊ะเก้าอี้กันเป็นที่โกลาหล
ทุกคนพยายามเลือกเอาโต๊ะเก้าอี้ตัวที่สะอาดที่สุด พังน้อยที่สุด จนเขาเกือบจะลืม
ถ้าไม่บังเอิญเห็นเหตุการณ์อย่างนั้นจะมาเกิดขึ้นต่อหน้าให้เขาเห็นอีก
จะให้เขาบอกกับใครๆหรือว่า
อาจารย์มหาวิทยาลัยซึ่งจบปริญญาโท ปริญญาเอก ทำในสิ่งที่เหมือนกับเด็กประถมทำ
อาจารย์ทุกคนที่นี่ต้องการพื้นที่ ต้องการห้องส่วนตัว ต้องการสัดส่วนของตัวเอง บางคนต้องการความโอ่อ่า
ต้องการนั่งตรงที่ต้องการจะนั่ง ทุกคนต่างยืดถือความสะดวกสบายและสนองความต้องการเหลวไหลของตัวเอง
เขาอยากจะออกไปจากมหาวิทยาลัยสถานที่อันโง่งมนี่เสีย
เขารู้สึกผิดหวังครั้งยิ่งใหญ่ที่เขารู้สึกว่าเขาตัดสินใจผิดพลาด
ที่คิดว่าเป็นโอกาสอันดีที่ได้เข้ามาอยู่ในแวดวงของนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย
จะได้ถือโอกาสพัฒนาความคิดตัวเอง
เรียนรู้บางสิ่งบางอย่างที่อยากได้ใคร่รู้แต่ไม่มีโอกาส
ใครๆก็อยากเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย แต่จะมีกี่คนที่ต้องการเป็นอาจารย์เพราะต้องการสอนหนังสือ
ต้องการให้ความรู้เด็กด้วยความจริงใจ แต่ส่วนส่วนใหญ่แล้วครึ่งหนึ่ง
สำหรับคนที่ต้องการเป็นอาจารย์ เพียงเพราะเป็นง่านสบาย โคตรสบายจริงๆ
ในขณะที่คนทั่วไปทำงานวันละแปดชั่วโมง และคนอีกหลายล้านคนที่ทำงานวันละมากกว่าสิบชั่วโมง
แต่อาจารย์ที่นี่บางคนทำงานเฉลี่ยแค่วันละไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ
แค่สอนหนังสือสัปดาห์ละห้าชั่วโมงสิบชั่วโมงยังส่ออาการเบื่อหน่าย
ทำหน้าที่ตนเองไม่เต็มที่
เขาไม่เข้าใจว่าจะมาเป็นอาจารย์ให้เปลืองภาษีชาวบ้านทำไม นี่หรือคือสถานที่ผลิตปัญญาชน เขาไม่เข้าใจ
ถ้าจะผลิตบัณฑิตออกมาเพื่อให้เป็นบัณฑิตใบ้ บัณฑิตกุมเป้ากางเกง
บัณฑิตไม่มีกระดูกสันหลัง เขาจะเรียกที่นี่ว่ามหาวิทยาลัยอยู่ทำไม
เขารู้สึกหดหู่
และรับไม่ได้กับระบบและอาจารย์มหาวิทยาลัย ประเทศไม่ได้สอนให้คนคิด
มหาวิทยาลัยเป็นที่สอนนักคิด เป็นที่สร้างนักคิด
แต่คนที่สร้างนักคิดไม่เคยมีความคิดหรือมีความคิดก็ไม่มีสิทธิ์จะคิด
เพราะเพียงแค่คิดคนนั้นก็กลายเป็นแกะดำ เป็นไอ้บ้าอีบอ
ที่มีคนพร้อมจะกล่าวประณามให้
เขาจึงใช้เวลานั่งคิดถึงที่บ้าน
ที่ซึ่งเป็นทุ่งนาป่าสะแก ที่น่าจะเป็นที่มีคุณค่าต่อชีวิตมากกว่าการมา
หมักหมมอยู่กับคนมีปัญญาแต่ไมมีความคิดเหล่านี้
หรือเขาต้องยอมรับว่า ปัญญานั้นให้กันได้ แต่ความคิดนั้นต้องหาเอาเอง
เขามองว่าสังคมที่ดีกว่าควรจะเริ่มต้นที่อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิ
ไม่ใช่เริ่มที่นักศึกษา ปล่อยให้นักศึกษาต่อสู้กันไปตามบุญตามกรรม
โดยที่อาจารย์เป็นแค่ผู้สังเกตการณ์
เขาไม่เห็นด้วยเลยว่า ที่อย่างนี้จะสร้างความเป็นคนที่เป็นคนให้กับเขาได้
เขาเสียแรงหวังและตั้งใจ สุดท้ายเขาคิดว่าเขาควรกลับไปทำนา
ทำไมเขาจะต้องมาทนอึดอัด ทนอับทึบอยู่กับเมืองที่สกปรกและผู้คนโสโครกรอบๆตัวของเขา
เขาคิดว่าเขาโชคดีที่ยังมีนาให้กลับไปทำ มีที่ซึ่งมีอากาศบริสุทธิ์จะหายใจ
มีคนพูดภาษาเดียวกับเขารออยู่เหมือนกัน
จากเรื่องราวทั้งหมดของเรื่องข้างต้น
จะเห็นว่าผู้เขียนต้องการแสดงทัศนคติต่อแวดวงระบบอาจารย์ในมหาวิทยาลัย
คุณธรรมจริยธรรมของความเป็นครู และที่ซึ่งเป็นแหล่งผลิตผู้มีปัญญาชน ผลิตบัณฑิต ผู้เขียนมีน้ำเสียงตำหนิ ไม่พอใจ ไม่เห็นด้วย
กับการเป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ที่ให้ได้แค่ปัญญา
แต่กับสอนให้ให้นักศึกษาคิดไม่ได้ โดยใช้ภาษาที่ตรงไปตรงมา เข้าใจง่าย
กระชับชัดเจน ใช้คำหนักแน่น แสดงให้เห็นถึงความรู้สึกและทัศนะของตนเองอย่างชัดเจน
จากเรื่อง ที่นี่มหาวิทยาลัย
ผู้แต่งต้องการเสนอให้เห็นว่า ที่ที่ให้ความรู้ ที่ผลิตบัณฑิต
แหล่งวิชาการที่สร้างผู้เป็นปัญญาชน ไม่ใช่แค่ มหาวิทยาลัย
ผู้ให้ความรู้ไม่ใช่แค่ผู้เป็นอาจารย์ สังคมที่ดีใช่ได้เริ่มต้นที่มหาวิทยาลัย
แต่ควรเริ่มต้นที่อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีจรรยาบรรณของความเป็นครู
สามารถสร้างคนให้เป็นคนได้ ไม่ใช่ให้ได้แค่ปัญญาความรู้ แต่ทำให้นักศึกษาคิดไม่ได้
จากเรื่องสามารถสรุปตีความได้ว่า
มหาวิทยาลัยเป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งที่ช่วยสร้างพื้นฐานความรู้ปัญญา
แต่ทุกคนสามารถสร้างตนเองให้เป็นคนเป็นผู้มีปัญญาเป็นบัณฑิตได้ด้วยการมีคุณธรรมในใจ
ทำสิ่งที่มีคุณค่าที่สุดของความเป็นมนุษย์ได้ สร้างสรรค์สังคมที่ดีได้
โดยไม่จำเป็นต้องยึดติดที่เพียงเป็นผู้จบจากมหาวิทยาลัยเท่านั้น
อ้างอิง
:
วาณิช จรุงกิจอนันต์. ซอยเดียวกัน. กรุงเทพฯ: ศิลปาบรรณาคาร, 2556. (หน้า 43)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น