วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

บทวิจารณ์วรรณกรรมเพลงสะท้อนสังคม

ปริญญาลูกแม่ค้า : วรรณกรรมเพลงสุดซึ้งสะท้อนภาพสังคม
                                 บทวิจารณ์โดย : นางสาวยุภาพร  วาทสิทธิ์



เพลง...ปริญญาลูกแม่ค้า

ศิลปิน :  ศิริพร   อำไพพงษ์
คำร้อง/ทำนอง :  สนชัย   สมบูรณ์
เรียบเรียง :  ธีระพงษ์   ศักดิ์แก้ว

เนื้อเพลง :
แม่ยอมลำบาก  เพราะอยากให้ลูกสบาย
เหนื่อยกายเหนื่อยใจ ไม่ยอมพ่ายต่อโชคชะตา
นอนดึกตื่นเช้า กลางวันเอาใจลูกค้า
เรียนน้อยแรงด้อยราคา อาชีพแม่ค้าก็ต้องจำทน
สู้ไปไม่บ่น อดทนเพื่อลูกเรื่อยมา
แม่อยากเห็นใบปริญญา ที่แลกมาจากเหงื่อคนจน
เห็นลูกสู้แท้ ใจแม่ก็สุขเหลือล้น
ไม่ยอมให้ลูกอายคน สู้ทนหาเงินส่งเรียน
*สิ้นเดือนเหมือนดั่งกับแม่สิ้นใจ บางคราวไม่พอใช้จ่าย
ยืมเงินรายวันหมุนเวียน
แลกด้วยน้ำตา จึงได้เงินมาเป็นค่าเรียน
หวังว่าลูกคงพากเพียร สมกับที่แม่ตั้งตา..
**แม่คอยสานต่อ นับตั้งแต่พ่อเจ้าจากไป
ลูกอย่าน้อยใจ มุ่งมั่นไป อย่าแคร์ปัญหา
อาจมีบางครั้ง เหนื่อยใจกับความเหว่หว้า
แม่คอยหอมใบปริญญา ให้ลูกแม่ค้าคนนี้ทำได้..
..ซ้ำ*,**..
แม่หวังพึ่งใบปริญญา ให้ลูกคว้ามา ซับน้ำตาใจ..






ปริญญาลูกแม่ค้า : วรรณกรรมเพลงสุดซึ้งสะท้อนภาพสังคม

เพลงปริญญาลูกแม่ค้า ขับร้องโดย นักร้องเสียงอ้อนศิริพร  อำไพพงษ์  ถือได้ว่าเป็นเพลงที่ให้กำลังใจ เนื้อหาของเพลงผู้แต่งมุ่งให้กำลังใจ สำหรับคนที่ประกอบอาชีพพ่อค้าแม่ค้า  รวมไปถึงผู้ที่เป็นลูกของพ่อค้าแม่ค้าที่กำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี เพื่อไม่ให้ย่อท้อต่อความยากลำบาก ไม่ให้น้อยใจและดูถูกอาชีพแม่ค้า ให้มีความตั้งใจและภูมิใจกับความสำเร็จที่ได้มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของอาชีพแม่ค้าจนๆ ส่วนตัวดิฉันเองเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบบทเพลงนี้มาก เพราะเป็นคนหนึ่งที่เป็นลูกแม่ค้า  เวลาที่รู้สึกเหนื่อยและท้อกับเรื่องเรียนเรื่องงาน จะชอบเปิดเพลงนี้ฟังเสมอๆ เวลาได้ฟังเพลงนี้ครั้งใด จะทำให้รู้สึกว่าตนเองมีกำลังใจมีพลังที่จะสู้กับปัญหาต่างๆได้ทุกครั้งไป
นอกจากเพลงนี้จะเป็นเพลงที่ให้กำลังใจแล้ว ยังสะท้อนสภาพสังคมและค่านิยมในด้านต่างๆได้เป็นอย่างดี   ไม่ว่าจะเป็นภาพสะท้อนสังคมด้านการประกอบอาชีพ  ค่านิยมด้านการศึกษา  ภาพสะท้อนสังคมด้านเศรษฐกิจ  ภาพสะท้อนสังคมด้านครอบครัว เป็นต้น
จากบทเพลงจะเห็นว่ามี ภาพสะท้อนด้านการประกอบอาชีพ  ซึ่งในเพลงนี้ได้กล่าวถึงอาชีพแม่ค้า
แม่ค้า เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ลำบาก เหนื่อยกายเหนื่อยใจ และจะต้องมีความขยันมีความอดทน ต้องนอนดึกตื่นเช้า เพราะจะต้องเตรียมข้าวของสินค้าที่จะนำไปขาย ทั้งต้องบริการเอาใจลูกค้าเพื่อที่จะได้ขายของได้ ทุกๆวันชีวิตจะต้องวนเวียนอยู่แบบนี้ ถึงจะเหนื่อยยากลำบากอย่างไรแม่ค้าก็ต้องทน  ดังจะเห็นในเนื้อเพลงท่อนที่ว่า......
“ แม่ยอมลำบาก   เพราะอยากให้ลูกสบาย     เหนื่อยกายเหนื่อยใจ   ไม่ยอมพ่ายต่อโชคชะตา 
นอนดึกตื่นเช้า    กลางวันเอาใจลูกค้า    เรียนน้อยแรงด้อยราคา    อาชีพแม่ค้าก็ต้องจำทน
ในส่วนของ ค่านิยมด้านการศึกษา จะเห็นว่าปัจจุบันการศึกษาเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นมากสำหรับคนทุกชนชั้น ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนยากจน ก็ยังมีค่านิยมและให้ความสำคัญด้านการศึกษาเพราะเชื่อว่าการศึกษาจะช่วยให้มีอนาคตที่ดี คนจนเองเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นชาวไร่ชาวนา หรือแม่ค้าเองก็ตามยังมีความต้องการอยากให้ลูกของตนได้มีการศึกษาในระดับที่สูง และอยากเห็นลูกประสบความสำเร็จในการเล่าเรียนอยากเห็นลูกได้รับปริญญา เพราะสำหรับคนยากจนแล้ว นั่นถือเป็นความสำเร็จอีกอย่างที่จะทำให้ผู้ที่เป็นพ่อแม่ภูมิใจมากที่สุด ถึงแม้จะต้องยอมลำบาก ทำงานหนัก นอนดึกตื่นเช้า ดังอาชีพแม่ค้า ก็ต้องยอมทำเพื่อที่จะให้ได้เงินมาใช้เป็นทุนส่งเสียให้ลูกได้เรียนหนังสือ ดังเนื้อเพลงท่อนที่ว่า....
สู้ไปไม่บ่น   อดทนเพื่อลูกเรื่อยมา   แม่อยากเห็นใบปริญญา    ที่แลกมาจากเหงื่อคนจน
เห็นลูกสู้แท้    ใจแม่ก็สุขเหลือล้น   ไม่ยอมให้ลูกอายคน    สู้ทนหาเงินส่งเรียน
                ส่วน ภาพสะท้อนด้านเศรษฐกิจ จากเนื้อเพลงจะเห็นว่า อาชีพแม่ค้าไม่ได้เป็นอาชีพที่ร่ำรวย จะเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจของครอบครัวนี้ไม่ค่อยจะดีนัก ด้วยอาชีพแม่ค้าเป็นอาชีพที่หาเช้ากินค่ำ นอกจากที่ต้องใช้เป็นค่าเล่าเรียนของลูก ยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัว ซึ่งบางเดือนรายได้จากการขายของก็ไม่พอกับค่าใช้จ่ายจำนวนมาก จนในบางครั้งต้องอาศัยการไปขอกู้ยืมเงินรายวันจากนายทุน แน่นอนค่ะว่า คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายอาจจะทราบและเคยเห็นกันมาบ้างว่า ทำไมแม่ค้าถึงได้เป็นหนี้รายวันกันเยอะ  
คงจะหนีไม่พ้นเหตุผลเดียวกันเหมือนในเนื้อเพลงท่อนที่ว่า....   สิ้นเดือนเหมือนดั่งกับแม่สิ้นใจ   บางคราวไม่พอใช้จ่าย   ยืมเงินรายวันหมุนเวียน   แลกด้วยน้ำตา    จึงได้เงินมาเป็นค่าเรียน
                และด้านสุดท้ายที่พบภาพสะท้อนสังคม ได้จากบทเพลงนี้คือ ภาพสะท้อนครอบครัว   
ครอบครัวที่สมบูรณ์มีส่วนสำคัญในการผลักดันเป็นกำลังใจและสนับสนุนส่งเสียให้ลูกได้ศึกษาในระดับสูง หากครอบครัวมีปัญหาและขาดความอบอุ่น ก็อาจเป็นอุปสรรคในการเรียนของลูกได้  แต่ถ้าหากเราลองมองอีกมุมหนึ่งสำหรับคนที่มีความตั้งใจจริง ย่อมจะไม่แคร์อุปสรรคเพียงแค่นี้ หากแต่อุปสรรคความน้อยใจนั้นกับจะกลายเป็นแรงพลักดันให้มีใจฮึดสู้ มีใจมุ่งมั่น เพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จ ดังเนื้อเพลงท่อนที่ว่า...
แม่คอยสานต่อ   นับตั้งแต่พ่อเจ้าจากไป   ลูกอย่าน้อยใจ    มุ่งมั่นไป   อย่าแคร์ปัญหา
อาจมีบางครั้ง   เหนื่อยใจกับความเหว่หว้า   แม่คอยหอมใบปริญญา   ให้ลูกแม่ค้าคนนี้ทำได้
ก้าวไปคว้าเอาใบปริญญามากอดไว้และมอบเป็นของขวัญแด่แม่ด้วยความภาคภูมิใจ แล้วเรียกปริญญาแห่งความสำเร็จใบนี้ว่า... ปริญญาลูกแม่ค้า ดังชื่อบทเพลงได้อย่างเต็มปาก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น